ง่วงนอน อ่อนเพลียระหว่างวัน เพราะกินน้ำตาลมากเกินไป (Sugar Spike)

หลายคนอาจเคยรู้สึก ง่วงนอน อ่อนเพลียระหว่างวัน โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่นอนหลับเพียงพอในคืนก่อน และไม่มีภาระงานหนักผิดปกติ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่มักถูกมองข้ามคือ “การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป” หรือที่เรียกว่า “Sugar Spike”

Sugar Spike คืออะไร?

Sugar Spike คือภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว หลังจากรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม หรือของว่างที่มีน้ำตาลแฝง เมื่อระดับน้ำตาลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณมาก เพื่อดึงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ทำไมการกินน้ำตาลมากถึงทำให้ง่วง?

เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วหลังจาก Sugar Spike สมองจะรับสัญญาณว่าพลังงานลดต่ำลง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น:

• ง่วงนอนเฉียบพลัน

• อ่อนเพลีย ไร้แรง

• มึนหัว สมาธิสั้น

• หิวอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งกินไป

บางคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าอาการง่วงเป็นเพราะกินอิ่ม หรือพักผ่อนไม่พอ ทั้งที่ความจริงแล้วเกิดจากความไม่สมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

•ดื่มน้ำหวานหรือน้ำอัดลมเป็นประจำ

•ทานของว่างที่มีน้ำตาล เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมอบต่าง ๆ

•ข้ามมื้ออาหารแล้วไปเน้นของหวานแทน

•ไม่กินโปรตีนหรือไขมันที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล

วิธีป้องกันอาการง่วงจาก Sugar Spike

1. ลดการบริโภคน้ำตาลและแป้งขัดขาว เช่น ขนมปังขาว ข้าวขัดสี

2. กินอาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง เพื่อช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่

3. แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ ระหว่างวัน

4. ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน

5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด

สรุป

อาการ ง่วงนอนระหว่างวัน อ่อนเพลีย มึนหัว อาจไม่ได้เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเสมอไป แต่อาจเป็นสัญญาณจากร่างกายว่า คุณกำลังบริโภคน้ำตาลมากเกินไป จนเกิดภาวะ Sugar Spike การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และเลือกอาหารที่สมดุลจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มีพลังงาน และไม่ง่วงระหว่างวันอีกต่อไป